ซึ่งหากมองกันที่อุปกรณ์ตามรายชิ้น นอกจากเพาเวอร์ซัพพลายแล้ว ฮาร์ดดิสก์ก็ถือเป็นอุปกรณ์อีกหนึ่งชิ้นที่มีโอกาสเสียหายมากที่สุด ดังนั้นหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน อย่างคอมพิวเตอร์จมน้ำไปแล้ว ส่วนอื่นอาจจะนำมาซ่อมแซมกันทีหลังได้ แต่ฮาร์ดดิสก์มีกลไกที่ซับซ้อน รวมถึงมีข้อมูลที่สำคัญ จึงต้องใช้ความระมัดระวังและความรวดเร็วมากที่สุด
ขั้นแรกไม่ควรปล่อยให้รอน้ำลดแล้วจึงเข้าไปเก็บกู้ฮาร์ดดิสก์ หากในนั้นมีข้อมูลสำคัญมาก ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ สิ่งที่ควรจะต้องทำก็คือ รีบเข้าไปเอาฮาร์ดดิสก์ที่ถูกน้ำจมอยู่ออกมาให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งถ้าจมไปไม่นาน ระบบป้องกันอาจจะกันน้ำได้ในระดับหนึ่ง ทำให้เสียหายไม่มาก แต่ถ้ายิ่งปล่อยให้จมอยู่นาน โอกาสเสียหายก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ขั้นที่สอง หากยังไม่สามารถลุยน้ำเข้าไปเอาฮาร์ดดิสก์มาได้โดยด่วน ด้วยเหตุผลเรื่องการเดินทาง อันตรายจากกระแสไฟฟ้าหรืออื่นๆ ก็ต้องรอน้ำลดเสียก่อน แต่ต้องทำใจว่า เมื่อถึงเวลานั้นน้ำลดระดับ ก็จะทำให้คราบน้ำหรือเชื้อรา ซึ่งเป็นอันตรายต่อตัวฮาร์ดดิสก์ โอกาสที่จะได้ข้อมูลคืนก็พอมีแต่ก็ลดเปอร์เซนต์ลงไปเรื่อยๆ ดังนั้นไม่ต้องรอให้แห้ง รีบนำออกจากเครื่อง แล้วเตรียมส่งซ่อมทันที
ขั้นที่สาม หลังจากที่เราได้ตัวฮาร์ดดิสก์ พร้อมการแก้ไขเบื้องต้น ก็ต้องรีบส่งบริษัทรับกู้ข้อมูลที่มีความพร้อมด้านอุปกรณ์ในการกู้ฮาร์ดดิสก์ เลือกที่มีห้อง Clean Room กันฝุ่นละอองเพื่อแกะตัวฮาร์ดดิสก์หรือจานแม่เหล็กภายในออกมาล้างทำความสะอาดและกู้ข้อมูล ซึ่งในเมืองไทยมีอยู่เพียงแค่ไม่กี่รายเท่านั้นที่สามารถทำการกู้ข้อมูลได้ถึงระดับนี้ ค่าใช้จ่ายก็ขึ้นอยู่กับความจุของฮาร์ดดิสก์ที่นำมากู้ แต่ก็เชื่อว่าหากเป็นข้อมูลที่สำคัญมากๆ ทำใหม่ไม่ได้ การจ่ายเงินก็ดูจะคุ้มค่าที่สุดแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น