ปัจจุบันไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะอ้างว่า ผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือแก็ดเจ็ตที่พัฒนาออกมาคือ นวตกรรมชิ้นแรกของโลก ซึ่งว่ากันตามจริง ฮาร์ดดิสก์ (HDD) 3.5" ความจุ 4TB ของ Seagate ทีใช้สำหรับเครื่องเดสก์ทอป ก็ไม่ใช่ฮาร์ดดิสก์ตัวแรกของโลกที่มีความจุขนาดนี้ ที่สำคัญมันใช้เทคนิคการเพิ่มความจุที่พบเห็นได้ทั่วไปนั่นก็คือ การเพิ่มจานดิสก์เข้าไปในฮาร์ดดิสก์ แต่เข้าใจว่า การเป็นฮาร์ดดิสก์ 4TB ตัวแรกของโลกน่าจะหมายถึงการออกแบบจานดิสก์หนึ่งแผ่นทีสามารถมีความจุได้สูงถึง 1TB มากกว่า ซึ่งเหนือกว่าคู่แข่งในตลาด ผลลัพธ์การพัฒนาจานดิสก์ความจุสูงขนาดนี้ ทำให้ฮาร์ดดิสก์ 4TB ของ Seagate มีข้อได้เปรียบในเชิงประหยัดพลังงานด้วย โดยจะใช้พลังงานน้อยกว่าคู่แข่งในตลาดที่ความจุเดียวกันถึง 35% (รอบหมุนจานต่ำกว่าคือแค่ 5,900 rpm แทนที่จะเป็น 7,200 rpm แบบของคู่แข่ง) อีกทั้งยังมีอัตราการส่งถ่ายข้อมูลสูงทีสุดอีกด้วยคือ 145MB/s
ฮาร์ดดิสก์ 4TB ของ Seagate จะมาพร้อมกับหน่วยความจำแคช 64MB สนับสนุนมาตรฐานการเชื่อมต่อ SATA 3 (6Gbps) แต่ก็สามารถใช้กับมมาตรฐาน SATA ก่อนหน้านี้อย่าง SATA 2 (3Gbps) และ SATA (1.5Gbps) ทั้งนี้ซีเกทเปิดเผยว่า ฮาร์ดดิสก์รุ่นใหม่นี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้เป็นฮาร์ดดิสก์ภายในเดสก์ทอปคอมพิวเตอร์ และฮาร์ดดิสก์ภายนอก ซึ่งรวมถึงการทำ NAS ด้วย ปกติฮาร์ดดิสก์ที่มีความจุตั้งแต่ 2TB ขึ้นไปจะต้องการระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ (ตั้งแต่ Windows 7 ขึ้นไป) และใช้ UEFI BIOS ถึงจะทำงานได้ แต่สำหรับฮาร์ดดิสก์ 4TB รุ่นนี้จะมาพร้อมกับซอฟต์แวร์ DiskWizard ที่เปิดโอกาสให้มันสามารถทำงานร่วมกับ Windows XP ได้ด้วย แต่ถ้าต้องการใช้มันเป็นฮาร์ดดิสก์สำหรับการบูทเครื่องด้วยล่ะก็ ระบบต้องใช้ UEFI BIOS เท่านั้น เหนืออื่นใดนอกจากความจุ ประหยัดพลังงาน และความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล HDD 4TB ของ Seagate รุ่นนี้ยังมีราคาแค่ 190 เหรียญฯ (ประมาณ 5,700 บาท) ถ้ารวมเคสด้วยจะขยับขึ้นเป็น 212 เหรียญฯ หรือประมาณ 6,400 บาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น