หลังจากซัมซุงได้เปิดตัว Galaxy Note 8.0 ออกมา ทำให้หลายคนรวมถึงผมอดคิดไม่ได้เลยว่า แท็บเล็ตของซัมซุงรุ่นนี้เกิดมาเพื่อจุดประสงค์ที่ต้องการจะต่อกรกับคู่แข่งอย่าง iPad mini ของแอปเปิลเป็นแน่แท้ ทั้งขนาดหน้าจอที่ใกล้เคียงกัน (Note 8.0 ขนาด 8 นิ้ว ส่วน iPad mini 7.9 นิ้ว) และการตั้งราคาของ Galaxy Note 8.0 ที่ออกมาเท่ากับ iPad mini รุ่น Cellular ในราคา 15,200 บาท
ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้หลายคนเกิดความสงสัยไปอีกว่า ระหว่าง Galaxy Note 8.0 กับ iPad mini ตัวไหนจะน่าใช้กว่ากัน โดยเฉพาะคนที่กำลังจะซื้อแท็บเล็ตเครื่องใหม่อาจกำลังเกิดอาการลังเลระหว่างสองรุ่นนี้อยู่
ในโอกาสที่ผมได้ทดสอบการใช้งานทั้ง Galaxy Note 8.0 (ยืมเขามา) ได้ระยะหนึ่ง ซี่งถือเป็นครั้งแรกที่ผมเคยใช้แท็บเล็ตในตระกูล Galaxy (ก่อนหน้านี้ใช้ iPad) แล้วรู้สึกดี ก็อยากจะมาเล่าประสบการณ์คร่าวๆ กันก่อนว่าทำไม Galaxy Note 8.0 จึงน่าใช้กว่า iPad mini แล้วเดี๋ยวหลังจากนี้จะมารีวิวหรือทดสอบฉบับเต็มให้ดูกันอีกครั้งครับ
S-Pen
สำหรับ S-Pen หรือปากกาของ Galaxy Note 8.0 ผมขอยกให้เป็น Killer Feature ของตระกูล Note เลยก็ได้ครับ นอกจากจะใช้ในการวาดภาพได้ถนัดกว่าใช้นิ้วปกติแล้ว S-Pen ยังสามารถใช้แทนการพิมพ์ตัวอักษรของคีย์บอร์ดบนหน้าจอได้อีกด้วย กล่าวคือ เราสามารถใช้ S-Pen เขียนตัวอักษรในลายมือของเรา แล้วเดี๋ยวมันจะแปลงเป็นตัวอักษรให้เองเลย รองรับภาษาไทยด้วยครับ (ดูวิดิโอที่ผมทดสอบด้านล่าง)
นอกจากนี้ S-Pen ยังใช้ในการ Capture หน้าจอหรือตัดส่วนต่างๆ (Easy Clip หรือ Crop เฉพาะส่วน) ของหน้าจอไปใช้งานได้อย่างง่ายดายอีกด้วย
*ขอเสริมว่า S-Pen ไม่ได้ใช้แค่กับ S-Note นะครับ แต่สามารถใช้เป็นตัวอินพุทตัวอักษรของทุกแอพได้เลยครับ
S-Note
พูดถึง S-Note หลายคนน่าจะเคยผ่านหูผ่านตากันมาบ้าง เป็นแอพจดโน๊ตแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกข้อความ, วาดภาพ, จดไอเดียต่าง ที่นึกได้ ตลอดจนสร้างสรรค์งานต่างๆ ได้ภายในแอพเดียว สำหรับ S-Note นั้นที่ถือว่าแจ้งเกิดและสร้างความแตกต่างให้ระหว่างตระกูล Galaxy Note มาตั้งแต่รุ่นแรก มาถึงใน Note 8.0 นี้ก็รวมอยู่ด้วย และยิ่งมาผนวกกับความสามารถอันยอดเยี่ยมของ S-Pen แล้วหล่ะก็ ทำให้จุดนี้กลายเป็นจุดที่ Note 8.0 เหนือกว่าแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆ เลยก็ว่าได้ (ชมตัวอย่างการใช้งาน S-Note ได้จากวีดิโอด้านล่าง)
Multi Windows : ทำงานได้พร้อมกันหลายอย่าง
Multi Windows เป็นฟีเจอร์สำหรับเปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นหลายแอพได้พร้อมกัน โดยจะแบ่งหน้าจอออกเป็นสองส่วน สามารถใช้งานแอพต่างๆ ในขณะเดียวกันได้สองแอพ เช่น โทรไปด้วยจดโน๊ตไปด้วย, เล่น Facebook ไปด้วยดู Youtube ไปด้วย หรือพิมพ์อีเมลและหาข้อมูลใน Google พร้อมกันไปด้วยก็ได้ ด้วยฟีเจอร์นี้เองจะทำให้ผู้ที่ใช้ Note 8.0 ได้สัมผัสถึงการทำงานแบบ Multitask ได้อย่างแท้จริง ซึ่งใน iPad mini หรือในอุปกรณ์ iOS อื่นๆ แล้ว ยังห่างไกลกับฟีเจอร์นี้มากครับ (จากประสบการณ์ส่วนตัว)
หน้าจอคมชัด
ข้อนี้ก็ตรงไปตรงมาตามสเปคครับ ว่า Galaxy Note 8.0 มีหน้าจอที่คมชัดกว่า iPad mini ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าหน้าจอของ iPad mini นั้นไม่ใช่แบบ Retina Display แต่มีความละเอียดอยู่ที่ 163 PPI (1024×768) ส่วน Galaxy Note 8.0 นั้นจะอยู่ที่ 189 PPI (1280×800) ทำให้การแสดงผลของหน้าจอมีความคมชัดมากกว่า iPad mini ครับ
สเปคแรง
สเปคแรงนอกจากจะเอามาเล่นเกมมันส์ๆ ได้แล้ว …หนึ่งในความสามารถอย่าง Multi Windows หรือการใช้งานแอพหลายแอพพร้อมกันของ Galaxy Note 8.0 จะเกิดไม่ได้เลยถ้าสเปคของเครื่องไม่แรง โดย Note 8.0 นั้นอัดซีพียูมาให้ในระดับ quad-core ส่วน iPad mini อยู่ที่ระดับ dual-core และหน่วยความจำหรือ RAM ใน Note 8.0 ก็มีขนาดถึง 2 GB ส่วน iPad mini มีเพียง 512 MB
…ที่สำคัญคือ เมื่อ Galaxy Note 8.0 มีสเปคที่เรียกว่าค่อนข้างสูงในระดับหนึ่ง ก็น่าจะมั่นใจ (หวัง) ได้ว่า Note รุ่นนี้อาจจะได้รับอัพเดทเป็นระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่นใหม่ๆ ในอนาคต
เพิ่มความจุด้วย microSD สูงสุด 64GB
เป็นที่รู้กันดีครับว่าอุปกรณ์ในระบบปฏิบัติการ iOS ไม่สามารถใส่การ์ดความจำหรือ microSD Card เพื่อเพิ่มความจุให้กับการใช้งานได้ แต่ใน Galaxy Note 8.0 นั้นรองรับการใส่ microSD ได้สูงสุดถึง 64GB
สมมุติ ถ้าหากเราต้องการ iPad mini ที่มีความจุ 64 GB เราต้องจ่ายเงินถึง 21,200 บาท แต่ถ้าเป็น Galaxy Note 8.0 ก็เพียงซื้อ microSD ขนาด 64GB ในราคาประมาณ 2 พันกว่าบาทมาใส่ ก็จะได้เป็นความจุรวมถึง 16+64 หรือ 80GB เลยทีเดียว …นี่ยังไม่นับถึงเรื่องการโอนถ่าย/ย้ายไฟล์ข้อมูล ที่สามารถทำในเครื่องคอมพิวเตอร์ได้สะดวกว่าอีกด้วย
ใช้โทรศัพท์ได้
เหตุผลสุดท้ายที่ผมยกให้ว่าทำไม Galaxy Note 8.0 ถึงน่าใช้กว่า iPad mini คือ Galaxy Note 8.0 สามารถใช้ฟีเจอร์ด้านโทรศัพท์ได้ หรือพูดง่ายๆ คือ “Galaxy Note 8.0 ใช้โทรได้” นั่นเ้อง ต่างกับ iPad mini ที่มีราคาเท่ากัน ถึงแม้จะเป็นรุ่นที่ใส่ซิมได้ (Cellular) แต่ก็ไม่สามารถใช้โทรศัพท์ได้ …การโทรผ่าน Galaxy Note 8.0 นั้น จะคุยผ่าน Smalltalk หรือยกตัวเครื่องแนบหูคุยเลยก็สามารถทำได้
และนี่คือทั้งหมดที่ผมยกให้ Galaxy Note 8.0 น่าใช้กว่า iPad mini ครับ ใครสงสัยหรืออยากจะให้รีวิวส่วนไหนก็เสนอมาได้ครับ ผมจะรวมรีวิวมาให้ในครั้งต่อไป…
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น