3/03/2556

รายงานการเปรียบเทียบปริมาณผู้ใช้ 5 Web Browser ยอดนิยมประจำปี 2012


ในตอนนี้คอมพิวเตอร์กับ Browser เองก็มีการพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ และสำหรับ Web Browser เองก็มีการปรับปรุงแก้ไขมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วย และยิ่งในตอนนี้ที่กำลังมีการผลักดันให้มีการพัฒนาระบบเข้ากับ HTML5 มากขึ้นเรื่อยๆ และจะให้เป็นมาตรฐานแทนการใช้มาตรฐานของ JavaScript กับ CSS โดยการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่มาตรฐานของ HTML5 จะทำให้ความเข้ากันกับอุปกรณ์อื่นๆ มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นแท็บเล็ตหรือคอมพิวเตอร์มีมากขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับการทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows RT นั้น Internet Explorer เองก็ไม่ได้ใส่ใจมากนักที่จะให้ Web Browser อื่นเข้ามามีส่วนแบ่งออกไปเช่นกัน เพราะในตอนนี้มีผู้ใช้หลายคนไม่ต้องการผูกติดกับ Internet Explorer เพียงอย่างเดียวแล้ว และต้องการเปลี่ยนไปใช้อย่างอื่น แต่ในขณะนี้ การผูกขาดกลับมาขึ้นในอุปกรณ์ชนิดอื่นๆ มากขึ้นเรื่อยๆ อย่างเช่นในแท็บเล็ตหรือว่าจะเป็นโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเป็นต้น ก็มีการผูกขาดการใช้เบราเซอร์เพื่อเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต อย่างเช่นใน อุปกรณ์พร้อมระบบปฏิบัติการ iOS ก็จะใช้งาน Safari และใน Android ก็ติดตั้งระบบ Android Browser มาให้ และใน Windows Phone เองก็ติดตั้ง Internet Explorer มาให้เช่นกัน รวมทั้งในตอนนี้ก็มีการสร้างมาตรฐานของ Web Browser ขึ้นมาอีกอย่าง Do Not Track (DNT) ที่จะไม่ติดตามการเข้าเว็บไซต์ต่างๆ ของ User นั้นๆ เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้แต่ละคน
สำหรับ Internet Explorer นั้น เคยมีประวัติไม่ดีกับเวอร์ชั่นที่ 9 มาก่อนหน้านี้แล้ว และมีการปรับปรุงในเวอร์ชั่นที่ 10 ในตอนนี้ที่ติดตั้งมาให้ใน Windows 8 โดยเพิ่มฟังก์ชั่นเด่นๆ เข้ามาอีก อย่างเช่น IndexedDB กับ AppCache ที่ทำให้สามารถเปิดเบราเซอร์ได้ แม้ว่าจะปิดการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเอาไว้, รองรับ Multi-Touch กับระบบ Sandbox เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้นอีกด้วย แต่ทว่าตอนนี้เองก็ยังไม่สมบูรณ์นัก
โดยในตารางนี้ เป็นปริมาณผู้ใช้เบราเซอร์ต่างๆ เชื่อมต่อเข้าสู่อินเตอร์เน็ตในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งสิ่งที่ผู้ทำ Web Browser นั้นควรใส่ใจ คือการพัฒนาเวอร์ชั่นที่ทำงานบนอุปกรณ์พกพาจำพวกแท็บเล็ตหรือว่าโทรศัพท์มือถือให้ดียิ่งขึ้น
และกระแสหนึ่งที่กำลังเป็นที่นิยมในต่างประเทศมาก คือ Chromebook ที่ติดตั้ง ChromeOS มาให้ในตัวเครื่อง โดยทำงานในระบบ Cloud Computing ที่อาจจะใช้งานแบบทั่วไปไม่ได้ เพราะออกแบบมาเพื่อใช้งานต่อเชื่อมบนอินเตอร์เน็ตเป็นหลัก โดยราคานั้นก็อยู่ที่ 249 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ (7,xxx บาท) โดยเหมาะสมที่จะใช้เป็นคอมพิวเตอร์เครื่องที่ 3 หรือ 4 ในบ้านมากกว่า และหากว่าใช้งานเพื่อเข้าสู่อินเตอร์เน็ตเป็นหลักและรับส่งอีเมล์ หรือจัดการงานต่างๆ ที่สามารถทำบนอินเตอร์เน็ตได้แล้ว ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวด้วยราคาที่ถูกกว่า iPad สักเครื่องหนึ่ง และมีคีย์บอร์ดที่พิมพ์งานได้สะดวกกว่า iPad อีกด้วย 
ที่มา : news.cnet

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น